กวนอิม ปางหนึ่ง

ในพิธีทิ้งกระจาดมหาทานหรือซิโกว (施孤) จะอัญเชิญพระองค์มาเป็นประธานในมณฑลพิธีเพื่อควบคุมดวงวิญญาณสัมภเวสีและเปรตทั้งหลายที่มารับส่วนบุญให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ไปทำร้ายผู้คน เพราะเชื่อว่าบรรดาดวงวิญญาณเหล่านี้จะเกรงกลัวต่อพระองค์ผู้เป็นใหญ่ ณ ที่แห่งนั้น จึงเรียกไต่สือเอี๊ยอีกพระนามว่าโผวโต่วกง (普渡公) ส่วนใหญ่มักจะสร้างเป็นโครงกระดาษ และเผาส่งเสด็จเมื่อเสร็จพิธี มีเพียงบางแห่งที่สร้างเป็นกิมซิงถาวร

เรื่องราวของท่านปรากฏอยู่ในพระสูตรฝ่ายมหายาน "โยคะตันตระอัคนีชวาลมุขเปรตพลีโยคกรรม" กล่าวว่าไต่สือเอี๊ยคือนิรมาณกายของพระโพธิสัตว์กวนอิมมาปรากฏต่อหน้าพระอานนท์ เพื่อเป็นอุบายให้พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเทศนาแก่พระอานนท์เรื่องพิธีโยคเปรตพลีอุทิศ ซึ่งรายละเอียดต่อไปนี้

ครั้งนั้นพระพุทธเจ้าเสด็จประทับแสดงพระธรรมเทศนา ณ นิโครธารามวิหาร เมืองกบิลพัสดุ์ พระอานนท์เถระเจ้า พุทธอนุชาได้หลีกออกไปเข้าญาณสมาบัติอยู่ที่โคนต้นไม้ใหญ่ ขณะที่พระอานนท์บำเพ็ญญาณปริเวทธรรมอยู่นั้น ได้มีอสูรกายตนหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้า บอกชื่อว่า อัคนีชวาลมุขเปรต หรือเอี่ยมเข้า (焰口) รูปร่างสูงใหญ่หน้าเขียว แสยะเขี้ยว ตามตัวมีแต่หนังหุ้มกระดูก ลำคอเล็กเท่ารูเข็ม มีเปลวไฟโชติช่วงออกจากปากเป็นนิจ ได้กล่าวกับพระอานนท์ว่า ท่านอานนท์ เราได้รับความทุกข์เวทนาอย่างแสนสาหัสเพราะความหิวกระหาย จะกินก็ไม่ได้แต่ทุกขเวทนาเหลือหลาย ท่านผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า อุดมด้วยความเมตตากรุณาต่อสัตว์ ขอพระเถระท่านอุทิศสิ่งอุปโภคบริโภคเป็นไทยทานแก่ฝูงเปรตด้วยเถิด ถ้าท่านไม่กระทำในกาลอีก ๓ วัน ก็จะถึงซึ่งแก่มรณะ ว่าแล้วอสูรกายตนนั้นก็หายไป พระอานนท์เกิดความสะดุ้งกลัว เข้าเฝ้าพระบรมศาสดากราบทูลให้ทรงทราบแลขอพระพุทธองค์เป็นที่พึ่ง

พระพุทธเจ้าจึงตรัสแก่พระอานนท์ว่า ในอดีตเมื่อพระองค์ยังเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ในนั้น พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ได้ตรัสเทศนาถึงพิธีโยคเปรตพลี เพื่อโปรดเหล่าเปรตและสัตว์ทั้งหลาย ดังนั้น อัคนีชวาลมุขเปรตตนนั้นคือ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (พระกวนอิม) ผู้มีปณิธานที่จะโปรดสัตว์ให้หลุดพ้นจากทุกข์ ได้นิรมาณกายมาเพื่อเป็นอุบายให้พระพุทธองค์แสดงพระธรรมเทศนาเกี่ยวกับพิธีโยคเปรตพลีอุทิศแก่พระอานนท์ เพื่อโปรดสัตว์ไตรภูมิเป็นปฐม และพิธีนี้ได้เป็นแนวทางปฏิบัติของนิกายมนตรยาน เพื่อแสดงพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าและเหล่าพระโพธิสัตว์ต่อเหล่าสัตว์โลกทั้งหลาย