ฮวงจุ้ยดีเท่ากับชี่ที่สมดุล
ศาสตร์ฮวงจุ้ยเชื่อเรื่องความสมดุลและความกลมกลืน อะไรที่น้อยไปมากไปมีผลทำให้ชี่ไม่สมดุลทั้งนั้น
เมื่อพูดถึงความสมดุลก็ต้องพูดถึง หยิน-หยาง ซึ้งเป็นภาพรวมของจักรวาลทั้งหมด ความรู้เรื่องหยิน-หยางมีรายละเอียดลึกซึ้ง สามารถต่อยอดไปเป็นศาสตร์อื่น ๆ หลายแขนง และเป็นรากฐานของฮวงจุ้ย โดยทั่วไปเราจะแทนหยิง-หยางด้วยรูปภาพคล้ายลูกน้ำ หยิงจะเป็นตัวสีดำมีจุดขาว หัวอยู่ด้านล่าง ส่วนหยางจะเป็นตัวสีขาวมีจุดดำ หัวอยู่ด้านบน
คนบางคนอาจคิดว่า หยาง-ดี หยิน-ไม่ดี หรือหยาง-สว่าง หยิน-มืด แต่ความจริงคืน ทั้งหยิงและหยางเป็นการกล่าวถึงสภาพหรือพลังของสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นคู่กันและอยู่ตรงข้ามกัน ไม่ได้หมายความว่า ชีวิตต้องมีแต่หยาง หรือต้องมองหาหยางในทุกที่อย่างเดียว เพราะหากเป็นอย่างนั้น ชีวิตก็ไม่สมดุล ที่จริงแล้วหลักฮวงจุ้ยบอกไว้ว่า จงมองหาหยินเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่เป็นหยาง และจงมองหาหยางในพื้นที่ที่เป็นหยิน ในบางพื้นที่ต้องการความเป็นหยิงมาก ขณะที่พื้นที่ต้องการความเป็นหยางมากกว่า
สิ่งที่ฮวงจุ้ยไม่ชอบก็คืน ชี่ที่แรงเกินไป อย่างทางเดินหรือถนนที่พุ่งเข้ามาหาตัวบ้าน ชี่ที่ถูกบีบเป็นถนน ท่อ หรือเส้นเหมือนลำกล้อง ชี่ที่เกิดความแหลมคมของมุมตึก สันตึก ฮวงจุ้ยชอบโต๊ะกลมมากกว่าโต๊ะเหลี่ยม เพราะโต๊ะเหลี่ยมมีมุมสี่มุม ซึ่งแต่ละมุมเป็นตัวก่อกำเนินชี่แรง ภาษาอังกฤษเรียกว่า Poison Arrow หรือลูกศรอาบยาพิษ
นอกจากนั้นฮวงจุ้ยยังให้ความสำคัญกับประตูมาก เพราะเป็นปากทางให้ชี่เดินทางเข้ามา ที่อยู่อาศัยที่ต้องมีประตูขนาดเหมาะสม มีประตูที่เปิดให้ชี่ทางเข้ามาในบ้านอย่างสะดวก และต้องสามารถกักชี่ให้ไหลเวียนอยู่ในบ้านระยะหนึ่งก่อนจะออกไปโดยไม่ติดขัด หลักฮวงจุ้ยจะบอกว่า ทางเข้าบ้านต้องเป็นมังกรเจ้าบ้านก็อาจทำถนนหน้าบ้านให้เป็นถนนโค้งรูปตัวเอส (s) แทนมังกรเสียเลยซึ่งความจริง ฮวงจุ้ยไม่ได้หมายถึงมังกรจริง ๆ หรอก แต่อยากให้ทำทางเข้าบ้านเป็นรูปโค้ง เพื่อให้ชี่สะสมพลังได้ดีขึ้ง และไม่ให้ชี่แรงเกินไป การปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมตามทฤษฎีฮวงจุ้ยที่จะพูดถึงในเนื้อหานี้ จะเกี่ยวข้องกับ 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ ทิศทาง ธาตุ วัตถุมงคล
1.ทิศทาง
ฟ้าเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลังของความสำเร็จของคน ซึ่งเราจะใช้วันเดือนปีเกิดมาแทบว่า ทิศที่ดีสำหรับแต่ละคนคือทิศใด โดยเทียบวันเดือนปีเกิดตามปฏิทินจีน ซึ่งจะเปลี่ยนช่วงประมาณวันที่ 4-5 กุมภาพันธุ์ (ไม่ได้เปลี่ยนตามวันตรุษจีนอย่างที่คนจำนวนหนึ่งเข้าใจกันนะครับ)
2.ธาตุ
ธาตุเป็นเสาหลักอีกหนึ่งอย่างของการจัดฮวงจุ้ย ระบบธาตุในโลกมี 2 ระบบ คือ ระบบธาตุแบบสากลได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ และระบบธาตุแบบจีน ซึ่งมี 5 ธาตุ น้ำ ไม้ ไฟ ดิน ทอง ฮวงจุ้ยจะใช้ระบบธาตุแบบจีนเป็นหลัก แต่เพราะผมอยากให้เนื้อหานี้ช่วยแก่ปัญหาให้คนได้จริง ๆ บางบทจรึงมีธาตุแบบสากลมาแทรกบ้าง
ธาตุมีความสำคัญกับทิศทางและจะต้องนำความรู้สองอย่างไปใช้คู่กันเสมอ
กล่าวคือ
ทิศเหนือ คือ ธาตุน้ำ
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันออกเฉียงใต้ คือ ธาตุดิน
ทิศตะวันออกและทิศตะวันออกเฉียงใต้ คือ ธาตุไม้
ทิศตะวันตกและทิศตะวันตกเฉียงใต้ คือ ธาตุทอง
ทิศใต้ คือ ธาตุไฟ
ส่วนเหตุว่าทำไมทิศเหนือต้องเป็นธาตุน้ำ ทำไมทิศใต้ต้องเป็นธาตุไฟ ฮวงจุ้ยก็มีคำอธิบายไว้เช่นกัน แต่ต้องถอยไปดูภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ สังคม ประเพณีและวัฒนธรรม เช่น คนจีนสมัยก่อนจะไม่ชอบทิศเหนือ เพราะภาคเหนือของจีนอยู่ติดกับแทบไซบีเรีย มีอากาศหนาวและแห้งแรง แต่จะชอบทิศใต้ เพราะทางใต้มีสภาพอากาสอบอุ่นและเพาะปลูกได้ เป็นต้น
3.วัตถุมงคล
การใช้วัตถุมงคลในการจัดฮวงจุ้ยมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ เพราะผันแปรไปตามศาสนาหรือวัฒนธรรม อย่างคนไทยเวลาไปวัดก็นิยมปล่อยหอยคม เพราะคำว่าคมนั้นพ้องกับคำว่า ขมขื่น เวลาปล่อยหอยขมก็เหมือนเราได้ปล่อยความขมขื่นทิ้งไป แต่คนชาติอื่นคงไม่คิดเหมือนเรา เพราะคำว่า “หอยขม” ในภาษาอื่น ๆ ไม่ได้มีความหมายพ้องกับคำว่าขมขื่นอย่างภาษไทย หรือบางคนรู้สึกต้องการกำลังใจ ก็อาจเชิญเจ้าแม่กวนอิมมาประดิษฐาน ต้องการโชคก็ตั้งพระสังกัจจายน์ หรือเทพกวนอู บางคนนิยมตั้งสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ อย่าง ปลามังกร กระจกแปดเหลี่ยม เหรียญจีน ก้อนทอง ขลุ่ย ฯลฯ ซึ่งที่ซื้อก็เพราะรู้เรื่องราวหรือตำนานของสิ่งเหล่านี้ และบางคนที่ชอบธรรมชาติ ก็หาวัตถุจำพวกหิน แร่ ควอตซ์ เขี้ยวหนุมาน ฯลฯ มาตั้งไว้
การใช้วัตถุมงคลไม่ใช้เรื่องแปลก ยิ่งเป็นของที่เราชอบก็ยิ่งช่วยก่อให้เกิดพลังที่ดี ทวาปกติจะแนะนำให้ตั้งวัตถุมงคลเพื่อส่งเสริมธาตุมากกว่า เช่น ถ้าอยากเสริมธาตุไฟ แล้วเจ้าบ้านชอบรูปภาพม้าแปดตัวที่มีสีแดง ทางเราก็สนับสนุนให้ใช้ แต่ขอให้ดูความกลมกลืนเป็นสำคัญ
หยิน-หยาง
สิ่งที่แทนความเป็นหยาง ได้แก่ แสงสว่าง ผู้ชาย การเคลื่อนไหว้ อารมณ์ ที่มั่นคง รอยยิ้ม
สิ่งที่แทนความเป็นหยิง ได้แก่ ความมืด ผู้หญิง อารมณ์แปรปรวน ความรู้สึกจับต้องไม่ได้ น้ำตา
หยิง-หยางเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกันและเป็นคู่กันก็จริง แต่ไม่ได้มาในสัดส่วนที่เท่ากัน จากสัญลักษณ์ หยิง-หยาง เราเห็นว่า หยิงและหยางแยกจากกันด้วยส้นโค้ง ไม่ใช่เส้นตรง และที่ส่วนโค้งบางช่วงก็จะมีหยินมากกว่าหยาง (ช่วงล่าง) ขณะที่บางช่วงก็จะมีหยางมากกว่าหยิน (ช่วงบน) แต่ทั้งหมดนี้ก็อยู่ในจักรวาลเดียวกัน
อย่างเช่นฤดูกาล บางฤดูกลางวันสั้นกว่ากลางคืน ก็มีความเป็นหยิงมาก แต่บางฤดูกลางคืนก็สั้นกว่ากลางวัน ซึ่งก็จะมีความเป็นหยางมาก
ประเทศนอร์เวย์มีความเป็นหยางมากกว่าประเทศอื่นที่อยู่ใกล้เคียง เพราะนอร์เวย์มีพระอาทิตย์เที่ยงคืน ประเทศไทยรวมถึงประเทศแถบศูนย์สูตรเป็นประเทศในเขตร้อน ก็จะมีความเป็นหยางมากเช่นกัน คนในประเทศแถบนี้ก็ต้องลดความเป็นหยางลดลง เพื่อใช้ชีวิตสมดุลมากขึ้น ซึ่งธรรมชาติก็มีการปรับตัวอยู่ตลอดและเอื้อให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้นอยู่แล้ว เช่น การพัฒนาเรื่องผิวพรรณ สีผิว การขับเหงื่อ หรือโครงสร้างร่างกาย ซึ่งรูปลักษณ์ภายนอกของคนตะวันออกจะมีความเป็นหยิงมากกว่าคนตะวันตก เพื่อให้สมดุลกับสภาพแวดล้อมที่ทีความเป็นหยางนั่นเอง